บ้านของผมอยู่ในซอยพัฒนาการ 14 เนื่องจากไม่มีรถ ผมจึงต้องตื่นเช้าแหกขี้ตาเดินออกไปปากซอยแต่เช้าทุกวันเพื่อรอรถเมล์ขึ้นไปทำงาน แรกๆ ก็รู้สึกแย่หน่อยเหมือนกัน แต่พอผ่านไปได้ซักเดือนนึง ผมก็ชักขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้ผมต้องเดินอาดๆ ไปขึ้นรถเมล์หน้าปากซอยทุกวันขึ้นมาอย่างจับใจ นั่นเพราะทุกครั้งที่ผมเดินมาได้ครึ่งซอยมาทีไร เป็นต้องเจอ ‘เธอ’ คนนั้นเข้าอย่างจังทุกที เธอที่ว่านี้คือนักศึกษามหาลัยคนหนึ่ง
ที่ผมเดาเอาว่าน่าจะเรียนรามฯ เพราะเธอลงรถเมล์ตรงม. รามทุกวัน ผมได้มีโอกาสเจอเธอครั้งแรกราวสองอาทิตย์หลังจากทนร้อนในเมล์ขาวฟ้าสาย 92 มานานเพราะความขี้งกไม่ยอมนั่งปอ. เจอกันตอนเธอกำลังเดินออกจากบ้านในชุดนักศึกษากำลังจะไปเรียนนั่นแหละครับความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เจอเธอนั้นผมยังจำได้จนทุกวันนี้ รูปร่างของเจ้าหล่อนสมราคาที่เคยมีใครบางคนพูดไว้ว่า “ขาสวยรวยอึ๋ม” จริงๆ ด้วยรูปร่างอวบอัดไม่ผอมเพรียวเกินไปจนเป็นแท่งไม้แห้งๆ หรืออ้วนไปจนกลายเป็นตุ่มต่อขา ที่รัดรึงไว้ด้วยเสื้อนักศึกษาตัวเข้ารูปรัดรึงจนเห็นแทบจะทะลุเข้าไปถึงเนื้อผ้าชั้นใน
หรือบางวันไม่ใส่กระโปรงสั้น ก็จะเป็นกระโปรงตัวยาวถึงข้อเท้าที่ยังคงเน้นส่วนสะโพกและบั้นท้ายจนเด่นชัดนูนขึ้นมา แถมผ่าข้างเสียสูงจนแทบถึงเอว เล่นเอาเรียวขางามข้างที่ผ่านั่นโผล่สะบัดทุกครั้งที่เจ้าหล่อนก้าวเดินจากวันนั้นทุกวัน ผมก็ยอมทนแหกขี้ตาตื่นเช้าทุกวัน เพื่อมารอชมส่วนสัดอวบอัดของเธอส่ายระริกตามจังหวะเดินไปมหาลัยต่อหน้าผมทุกวัน ทุกครั้งที่ขึ้นรถเมล์ไปด้วยกัน ผมจะหาทางเลือกยืนไม่ก็นั่งอยู่ใกล้ๆ เธอตลอด ห่างบ้างใกล้บ้างตามแต่โอกาสจะอำนวยเพื่อไม่ให้เธอจับได้ว่าผมแอบดูอยู่ แต่ทุกครั้งผมจะหาทางแอบมองช่วงขาหรือบั้นท้าย รวมถึงความอร้าอร่ามของส่วนสัดเธอจนสมใจภายหลังจากหน้าที่การงานอันเครียดเขม็ง
ผมก็จะนั่งรถสายเดิมกลับบ้าน… เพื่อเสพซับความอวบอัดจากเรือนร่างนั้นอีกครั้งในช่วงทำงาน จวบจนเธอเลี้ยวขวาเข้าบ้านไป ทิ้งให้ผมเดินตรงต่อไปอีกร่วมยี่สิบเมตรจึงจะถึงบ้านผมซึมซับทุกส่วนสัดของเธอทุกวันเสียจนสะปอด แทบไม่มีวันธรรมดาวันไหนเลยที่ผมจะออกจากบ้านไปแล้วไม่เห็นนักศึกษาสาวคนนั้น ผมตามเธออย่างนั้นอยู่สองสัปดาห์เต็ม ก่อนจะเริ่มรู้สึกว่า แค่เดินตามดูไปวันๆ หนึ่งเช่นนี้มันยังไม่พอในที่สุด ผมก็ตัดสินใจใช้เงินเก็บทั้งหมด แอบซื้อกล้องตัวจิ๋วตัวหนึ่งซ่อนไว้ในกระเป๋าถือของตัวเอง เพื่อจะได้คอยแอบถ่ายอิริยาบถต่างๆ ของเจ้าหล่อนไว้ให้เต็มตาเพื่อเก็บเอากลับไปดูที่บ้าน ภาพช่วงขาเรียวงามจะสองข้างหรือผ่าข้างก็แล้วแต่
ตลอดจนความอวบอั๋นอร้าอร่ามของเธอที่ปรากฏบนจอคอมพิวเตอร์นั้นเรียกน้ำว่าวของผมได้ชะงัดดีเหลือเกินหลังจากที่แอบย่องตามเธอเงียบๆ มาหลายสัปดาห์จนได้รู้ชื่อเล่นของเธอจากที่ได้ยินแม่เรียกตอนเช้าบ่อยๆ ว่า บุ๋ม ถ่ายรูปช่วงขาและรูปร่างอวบอัดไว้แทบทุกอิริยาบถแล้ว ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง วันที่ความอดทนทั้งหมดในตัวผมขาดผึงผมตัดสินใจเด็ดขาด ว่าเป็นตายยังไงวันนี้ก็ต้องหาทางเผด็จศึกเอาบุ๋มมาเป็นของผมให้ได้ แล้วในคืนหนึ่งขณะที่ผมเดินตามเธอตามปกติ แต่ค่อยๆ แอบเอายาโปะใส่ผ้าไว้โดยไม่ให้ใครเห็น แล้วก่อนที่จะถึงบ้านของเธอตรงซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง
ผมก็พรวดเข้ารวบตัวอุดปากบุ๋มไว้จากด้านหลังด้วยผ้าโปะยานั้นทันที ครั้งแรกเธอดิ้นรนขัดขืนเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ แน่นิ่งไปเมื่อยาสลบออกฤทธิ์เมื่อบุ๋มหยุดดิ้น ผมก็จัดการอุ้มบุ๋มขึ้นพาดบ่าเข้าไปในก้นซอยมืดเปลี่ยว ผมวางร่างบุ๋มลงพลางเปิดไฟฉายดูส่วนสัดอวบอัดเสียให้เต็มตา ก่อนจะคลึงเคล้นเสียจนเต็มใจ แล้วหยิบกล้องออกมาถ่ายรูปท่านอนอันเซ็กซี่ของบุ๋มเก็บไว้หลายสิบใบ จากนั้นจึงค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษา แล้วถอดกระโปรงสั้นฟิตก้นสีดำออกจนเหลือแต่กางเกงในสีขาวตัวจิ๋วเดียว ช่วงขาเรียวยาวขาวผ่อง กับเนินหีโคกเล็กๆ (ที่ดูใหญ่เหลือเกินในสายตาผม)
บวกกับหน้าอกอวบอั๋นที่ฝันถึงมานานทำให้ผมทนไม่ไหวคลุกร่างลงบรรเลงเพลงสวาทเข้าใส่ทันที ผมทั้งขยำ ทั้งคลึงเคล้น ทั้งดูดเต้านมขาวๆ สองเต้านั่นอย่างตายอดตายอยาก จนผมเริ่มรู้สึกว่าน้ำหีของเธอเริ่มเยิ้มออกมาแสดงให้เห็นว่ายาสลบที่ผมโปะใส่นั้นยังน้อยเกินไป ผมรีบผละออกเตรียมทำอย่างอื่นต่อทันที แต่ยังไม่ทันทำอะไร บุ๋มก็รู้สึกตัวงัวเงียตื่นขึ้นมาเสียก่อน พอเห็นผู้ชายไม่รู้จักคนหนึ่งกำลังคร่อมตัวเธออยู่เท่านั้น บุ๋มก็ทำท่าแหกปากจะร้องทันที แต่ผมเอามืออุดปากไว้ทันและพยายามกดเอ๋ลงกับฟูกปูนอนในห้องนั้น แต่บุ๋มดิ้นรนเตะถีบและพยายามเอามือที่อุดปากออกเพื่อจะตะโกนเสียงดังเรียกให้คนช่วย
ผมเลยกำหมัดชกเข้าไปที่ท้องน้อยของบุ๋มจนเธอจุกร้องไม่ออก จากนั้นผมจึงเอาผ้ายัดปากไว้ไม่ให้เธอส่งเสียงอีก แล้วจึงจัดการจับขาแยกออกกว้างๆ จนเห็นรูหีเปิดรอรับพร้อมให้ล่วงล้ำ วินาทีนั้นเอง ผมปลดกางเกง ปล่อยท่อนควยน้อยๆ ที่กลายเป็นท่อนควยหัวบานยักษ์จากพันธนาการ แล้วดันควยเข้าไปในรูหีของเธอเต็มแรงจนเธอส่งเสียงอู้อี้ไม่เป็นภาษา (ที่ไม่ดังนักเพราะฤทธิ์กำปั้นและผ้าอุดปากของผม) ผมดันควยเข้าดันออกไม่รู้กี่สิบทีจนน้ำควยผมทะลักทลายเต็มรูหีของเธอ แน่ใจได้ว่าคงสะใจเป็นแน่
ฟังจากเสียงครางใต้ผ้าอุดปากนั่นหลังจากเสร็จภารกิจ ผมจัดการแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พร้อมขู่สำทับไม่ให้บอกใครเรื่องในวันนี้ ไม่งั้นจะเอารูปทั้งเปลือยทั้งกึ่งเปลือยแถมโดนเย็ดของเธอมาเปิดเผยให้ได้ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านซะ รูปพวกนั้นมีประโยชน์ให้ใช้หลายอย่างจริงๆ นอกจากจะเอามานั่งดูแก้เงี่ยนได้แล้ว ยังเอามาใช้ขู่เจ้าหล่อนให้ยอมตกเป็นทาสสวาทของผมในครั้งต่อๆ มาได้อีกด้วย แน่นอนว่าบุ๋มยอมโดยดีครับ ก็ใครล่ะจะอยากตกเป็นขี้ปากชาวบ้านให้ได้อายไปทั้งชาติอ้า ในที่สุดความฝันก็เป็นจริงซักที ไอ้การได้ครอบครองผู้หญิงที่ฝันจะฟัดมานานแบบนี้นี่มันช่างสุโขเสียนี่กระไร เหอๆๆ