เย็ดหลานสาวคนสนิท

ความสนิทสนม ความใกล้ชิด ความเห็นอกเห็นใจ ตลอดจนบรรยากาศที่อำนวยให้ ทำให้คนเราลืมตัวได้อย่างแน่นอนครับ ผมกล้าพูดอย่างนี้ เพราะมันเกิดขึ้นกับตัวผมและหลานสาวมาแล้ว ฟังดูมันอาจจะแสลงศิลธรรมและจริยธรรมไปสักหน่อยแต่ขอให้นึกถึงความจริงของชีวิตเถอะครับว่าไม่มีใครจะหลีกหนีพ้นหรอกถ้ายังมีเลือดเนื้อและอารณ์ข้อสำคัญก็คือสิ่งแวดล้อมเป็นใจด้วย

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงปีใหม่ของ 2 ปีก่อน หลานสาวผมโทรมาชวนผมไปเที่ยวที่บ้างของเธอที่อำเภอเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ และบอกว่าขอให้ไปให้ได้เพราะเตรียมการต้อนรับเต็มที่ทั้งอาหารการกินและที่พัก พอดีปีใหม่คราวนั้นผมยังไม่มีโปรแกรมที่ไหนนอกจากกินเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าที่บริษัทในเย็นวันที่ 30 ผมจึงตอบรับ หลานสาวของผมอายุน้อยกว่าผมประมาณ 5-6 ปีเท่านั้น เธอเป็นลูกสาวของญาติที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม จึงเรียกผมว่า “น้า” เราสนิทสนมกันมากเพราะเธอถูกฝากให้มาพักอยู่กับครอบครัวของผมเพื่อเรียนหนังสือตั้งแต่อายุ10ขวบ ตอนกลางค่ำกลางคืนเธอมักจะเข้ามาทำการบ้านมั่งอ่านหนังสือมั่ง ในห้องนอนของผม และง่วงหลับไปเลยก็มีบ่อยๆ ซึ่งผมก็ปล่อยให้เธอนอนบนเตียงเดียวกับผม

จนกระทั่งเธอเริ่มเป็นสาวจึงไม่นอนค้างในห้องผมแต่ก็ชอบเข้ามาคลุกคลีในห้องผมเสมอๆ รวมทั้งโอบกอดผมอย่างสนิทชิดเชื้อเสมอ แหม่นเป็นเด็กที่เรียนหนังสือไม่ค่อยเก่ง กว่าจะจบชั้นมัธยมได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเลยครับ แล้วก็ไม่ได้เรียนต่ออีก เธอเข้าทำงานเป็นพนักงานขายของในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่ทำได้เพียงครึ่งปีก็ได้สามีเป็นเซลส์แมนที่มาติดต่อกับห้างแห่งนั้นเป็นประจำ แหม่มจึงย้ายจากบ้านผมที่บางซื่อไปอยู่กับสามีแถวพระโขนง แล้วต่อมาสามีของเธอได้พาไปอยู่ที่บุรีรัมย์ประกอบการค้าส่วนตัว แล้วค่ำวันที่ 31 ผมก็ได้พบกับแหม่นหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบ3ปี “คิดถึงน้าจังเลย” เธอบอกแล้วถลาเข้ามากอดผมอย่างดีอกดีใจ “น้าก็คิดถึงแหม่ม…” ผมตอบเบาๆ กอดเธอแค่หลวมๆ เพราะเดี๋ยวนี้เธอไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว วัย 21-22ปี เป็นสาวเด็มตัว และมีสามีแล้วด้วย

“มาพักพับแหม่มหลายๆ วันนะคะ แหม่มเหงาจะตายอยู่แล้วเดี๋ยวนี้” เธอบอกผมระหว่างกินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารชานเมือง “ทำไม่เรอะ?” ผมถาม พลางจิบเหล้าบางๆ ไปด้วย แกล้มกับอาหารอีสานรสแซ่บ “ก็ผัวแหม่มน่ะซีคะ ไม่ยอมให้แหม่มออกทำงาน ให้อยู่เป็นแม่บ้านเฉยๆ แต่ตัวเขาเองทำงานจนไม่มีเวลาว่างเลยเดี๋ยวนี้ข้ามไปค้าขายถึงลาวโน่น ไปทีเป็นอาทิตย์ๆ กว่าจะกลับมาบ้าน กลับมาแค่วันสองวันก็เผ่นเข้ากรุงเทพ สั่งของที่จะส่งไปลาว โอ๊ย แหม่มละก็เซ็งชีวิตจะแย่อยู่แล้ว…ถึงคิดถึงน้ามากไงคะ เลยโทรไปชวนมาเที่ยวฉลองปีใหม่กับแหม่ม” ผมฟังแล้วเชื่อว่าเป็นความจริง เพราะดูเธอหงอยๆ เหงาๆ บ้านที่อยู่ก็เป็นตึกแถว 3 ชั้น ข้างล่างกับชั้นที่ 2 ทำเป็นโกดังเก็บสินค้า ห้องนอนอยู่บนชั้น 3 เธออยู่กับเด็กรับใช้ผู้หญิงอีกคนเดียวเท่านั้นจึงต้องเหงาเป็นธรรมดา

ประมาณ3ทุ่มกว่า เราก็อิ่มอาหาร แหม่มถามว่าอยากไปเที่ยวบาร์-คลับหรือเปล่า ผมรีบปฎิเสธเพราะเบื่อคนแน่น และบอกว่าอยากคุยกับเธอให้สมกับที่ไม่เจอกัน 2-3ปีแล้วมากกว่า คืนนั้นเราอยุ่กันเพียง 2คนเพราะแหม่มอนุญาตให้เด็กรับใช้กลับบ้านไปฉลองปีใหม่ เราจึงอาบน้ำอาบท่าแล้วสวมชุดนอนคุยกันอยู่ในห้องที่แหม่มจัดให้ผมพัก คุยไปคุยมาเราก็เอนร่างนอนเคียงกันบนเตียงเหมือนเมื่อครั้งแหม่มยังเป็นเด็กๆ อยู่บ้านผมที่บางซื่อ แต่ตอนนี้เธออายุ 21-22 แล้วครับ แถมเนื้อตัวในชุดนอนยังอวบอิ่มและขาวขึ้นมาก เพราะส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้านจนราศรีเถ้าแก่เนี้ยจับผุดผ่อง ผมชักรู้สึกยังไงๆ ขึ้นมาพิกลเมื่อเห็นความอวบขาวและสวยของเธอ แล้วผมก็ใจหายวาบเมื่อแหม่มพลิกตัวมากกอดผมไว้ แล้วบอกว่า “อยากกลับไปเป็นเด็กๆ จังเลยจะได้นอนกอดน้าทั้งคืน” ผมเผลอตัวกอดตอบ แล้วไม่รู้ว่าฤทธิ์เมาหรือฤทธิ์ความใคร่ทำให้ผมกอดตอบและจูบหน้าผากเธอแผ่วๆ แล้วจึงเลื่อนมาจูบปิดปากเธอ แหม่มคงแปลกใจ.. จ้องตาผมเป๋งเลย แต่ก็ดูดปากกับผมโดยไม่บ่ายเบี่ยง

เมื่อผมสอดลิ้นเข้าปากเธอก็เล่นลิ้นด้วย แถมพลิกตัวขึ้นทาบทับบนร่างผมอีก เราจึงบดปากกันอย่างเนิ่นนานและเอร็ดอร่อยซ่านเสียว บอกตรงๆ ว่าผมไม่เคยดูดปากแหม่มมาก่อนนอกจากกอดและหอมแก้มตามปกติธรรมดาของน้าหลานสาว แต่คราวนี้เราต่างเป็นหนุ่มสาวเต็มตัวแล้ว การกอดจูบด้วยปากและลิ้นจึงเป็นสื่อความใคร่อย่างแท้จริง ผมเริ่มลูบไล้ไปตามแขนและแผ่นหลังของแหม่มซึ่งสวมชุดนอนเนื้อบางๆ ลื่นๆ เธอเองก็จูบไซ้ไปตามใบหน้าและซอกคอของผม ลมหายใจของเธอรุ่มร้อนจนผมรู้สึกผ่าวๆ ที่ผิว มือของผมสอดเข้าไปคลึงและบีบแก้มก้นของเธออย่างมันอารมณ์ ความอยากได้ครอบงำผมเต็มที่แล้ว “อย่า…อย่าเลยค่ะน้า…” แหม่มห้ามแต่เสียงเบาเหลือเกิน เมื่อผมพยายามเปลื้องชุดนอนออกจากร่างของเธอ “เรา…เราเป็นน้าเป็นหลานกันนะค่ะ….” แต่ผมไม่ฟังเสียงแล้วครับ ผมนึกอยู่ในใจว่า แหม่มจะต้องคิดวางแผนไว้ล่วงหน้าบ้างหรอกน่ะ ไม่ยังงั้นจะโทรชวนให้ผมมาหาทำไมในเมื่อสามีของเธอไม่อยู่ ทั้งยังพร่ำว่าเหงามาก แล้วยังเข้ามาขลุกกับผมในชุดนอนวับๆแวบๆอย่างนี้

ผมจึงกระซิบบอกเธอว่า “ลืมเรื่องเหล่านั้นไปก่อนเถอะแหม่ม…น้าสงสารที่แหม่มเหงา น้าจะให้ความสุขกับแหม่มนะจ๊ะ” เธอไม่ตอบอะไร ผมถือว่ายอม อึดใจต่อมาแหม่มก็โชว์ความอวบของร่างกายให้ผมเห็นเต็มตา สองเต้าของเธอยังเต่งตึงและใหญ่เกินคาด หัวนมสีแดงระเรื่อไม่มีร่องรอยชอกช้ำ ผิวของเธอขาวเนียนจนผมนึกอยากจูบอยากเลียให้ทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงซอกขาของเธอช่างสวยสมบรูณ์อะไรปานนั้น แม้จะไม่โหนกใหญ่เท่าไรแต่ดูงามตาเพราะขนมีน้อยมาก เพียงแต่ประดับไว้รำไรเท่านั้นเอง เธอหลบตาเอียงอายเมื่อผมจ้องมองอย่างหลงไหล “ปิดไฟนะคะน้า…” “ไม่…” ผมสั่นหน้า “น้าอยากจะชมโฉมของแหม่มให้เต็มตา โอ้..ไม่นึกเลยว่าโตขึ้นแล้วแหม่มจะสวยไปทั้งตัวอย่างนี้…รู้อย่างนี้…เฮ้อ!” “ทำไมหรือคะ?” “น้าฟันแหม่มตั้งแต่อยู่บ้านน้าที่บางซื่อก็ดีแล้ว…ไม่ต้องมากินเดนคนอื่น” “แหม น้าเนี่ย…พูดอะไรก็ไม่รู้ กินดงกินเดนอะไรกัน” “ก็แหม่มเป็นของคนอื่นแล้วนี่จ๊ะ น้ามาทีหลังก็เรียกวา กินเดนไม่ถูกเรอะ”

“ทำไมน้าไม่คิดว่าตอนนี้แหม่มไม่มีเจ้าของละคะ…จะได้มีความสุขกันเต็มที่” จริงของหลานสาวทีเด็ด! ผมพยักหน้ารับแล้วลงมือลุยทันทีโดยกอดจูบลูบไล้ไปทั่วตัวเธอ ปากและลิ้นของผมระดมที่สองเต้าเต่งๆ จนแทบจะช้ำ แหม่มก็ไม่ใช้เล่นกระตุกกางเกงนอนของผมออกแล้วบีบๆ คลำๆ อย่างพึงพอใจในขนาดและความแข็งแกร่ง “โอย…แหม่มตายแน่เพราะของน้า…ทำไมทั้งยาวทั้งใหญ่ยังงี้ล่ะคะ?” “พระเจ้าให้มาเพื่อนำมาเป็นของขวัญปีใหม่แก่แหม่มไงล่ะ” ผมว่าเข้านั่น แล้วเสียววาบในช่องท้องเมื่อแหม่มอ้าปากอมส่วนปลายเอาไว้ทันที แถมใช้ลิ้นปาดไปมาด้วยแสดงว่ามีความชำนาญ “อูย…ดีเหลือเกินแหม่มจ๋า…มาเราจัดท่ากันใหม่นะจ๊ะ ให้น้าเลียของแหม่มมั่งจะได้มีความสุขไปพร้อมๆกัน” แหม่มคายปากออกจากดุ้นมหากาฬแล้วล้มตัวลงนอนหลับหัวหางกับผม เราหันหน้าเข้าหากันแล้วจดจ่อสนใจแต่ตรงหว่างขอของกันและกันเท่านั้น…

ผมยกขาานบนของแหม่มให้ชันขึ้นเพื่อเปิดทางให้ใช้ลิ้นได้สะดวก เห็นกลีบอูมๆแยกแย้มออกจากกันผมแทบจะคลั่งตาย เนื้อในเป็นสีชมพูอมแดงและมีละอองน้ำฉ่ำชุ่ม กลิ่นคาวอ่อนๆยั่วจมูกเป็นบ้า! ผมยื่นหน้าเข้าชิดแล้วแลบลิ้นแตะลงตรงร่องเนี้อ แหม่มสะดุ้งยึกด้วยความเสียว แล้วแก้เผ็ดผมด้วยการใช้ลิ้นแลบเสียส่วนปลายของผมทันที เราไม่มีความรังเกียจซึ่งกันและกัน จึงบรรจงเลียและดูดกันอยู่นานจนกระทังอารมณ์สุกงอมเต็มทีแล้วจึงได้หันกลับมาในท่าปกติ แหม่มนอนหงายกลางที่นอน ขาแยกออกจากกันจนเกือบสุดในท่านี้ผมเห็นโหนกเนินที่มีขนาดกลางๆ ของเธอแบะผายอย่างพร้อมรับมีความฉ่ำเยิ้มเห็นได้ชัด เพราะขนของเธอมีน้อยมาก ปากทางสวรรค์เป็นหลืบเนื้ออ่อนที่น่าพิสมัยจริงๆ ผมเลื่อนตัวเข้าประกบแล้วค่อยๆ ลำเลียงอาวุธเข้าสู่คลังแสง…ขนาดมีหล่อลื่นฉ่ำชุ่มยังงี้ก็ยังเข้ายากเข้าเย็น แหม่มต้องใช้มือแหวกของตัว เพื่อเปิดช่องทางให้ผมเข้าได้สะดวกขึ้น…นั่นแหละครับผมจึงอัดเข้าไปได้จนยันโคน

แหม่มเริ่มสนุกเมื่อผมขยับตัวโยกแบบ “ช่วงสั้น” เพือกรุยทางให้คล่อนก่อน แล้วจึงโยน “ลูกยาว” อย่างมีจังหวะจะโคน สองขาของเธอสะบัดไปมาเพราะเสียวสยิวเมื่อความใหญ่และยาวของผมเสียดสีภายในอยางจะจะ “น้าขา…แหม่มมีความสุขเหลือเกิน…ไม่เคยเสียวอย่างนี้มาก่อนเลยค่ะ…” เธอคร่ำครวญแต่สองตาหลับปี๋ ใบหน้าขาวผ่องสะบัดไปมาจนผมกระจายแผ่เต็มหมอน ผมกระแทกลงไป เธอก็กระทั้นขึ้นมารับเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยดีจริงๆครับ จนกระทั่งเธอเสร็จสั่นสะท้านไปทั้งตัวผมก็เต็มกลั้นแล้วเหมือนกัน…ฉีดกระสุนเหลวออกไปพิฆาตปากมดลูกทันที! คืนนั้น ผมกับแหม่มไม่เป็นอันหลับอันนอนหลังจากครั้งแรกแล้วเรานอนกอดกันต่อ คุยกันไปจูบกันไปหวานชื่นยิ่งกว่าบ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันซะอีก แหม่มเล่าให้ผมฟังว่า สามีของเธอก็มีชั้นเชิงการร่วมรักไม่เลว สามารถทำให้เธอถึงสวรรค์ได้ทุกครั้ง และใช้ลิ้นเก่งด้วย ทั้งนี้เพราะสมัยเป็นเซลส์แมนอยู่กรุงเทพฯเข้าโรงนวดหวดหมอสาวแทบทุกวันจนเก่งเชิงกาม ว่างั้นเถอะ

“แต่เขาไม่ค่อยอยู่บ้านเลยค่ะน้า แหม่มถึงว้าเหว่เหลือเกิน บางทีนึกอยากจะมีชู้ให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ก็ไม่กล้าทำสงสารเขาค่ะ เห็นเขาตั้งหน้าตั้งตาค้าขายจะได้รวยเร็วๆแล้วมีชีวิตสุขสบายต่อไปแหม่มก็เข้าใจเขา แล้วพยายามอดกลั้น ทำได้อย่างมากก็แค่ตกเบ็ดเวลาทนไม่ไหวจริงๆ…จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อนนึกขึ้นมาได้ว่าน้า คงช่วยแหม่มได้เพราะเราเคยสนิทใกล้ชิดกันมาก่อน แล้วแหม่มวางใจได้ว่าน้าจะต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับสุดยอด” ผมพยักหน้ายืนยันว่าจะไม่บอกให้ใครรู้แน่นอน เราร่วมรักกันเป็นเกมที่สองในชั่วโมงต่อมา ซึ่งคราวนี้แหม่มขอเป็นฝ่ายขึ้นโยกเอง “ขอแหม่มมันส์ให้สมกับอดอยากปากแห้งมานานนะคะ” เธอบอกแล้วขยับบั้นท้ายสวมตออย่างทะมัดทะแมง “เสียดายที่น้าอยู่กรุงเทพฯมันไกลจากที่นี่เยอะ ไม่ยังงั้นเราคงได้สนุกกันทุกวันที่เขาไม่อยู่” ผมบอก “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ บางอาทิตย์แหม่มอาจจะเข้ากรุงเทพฯเอง แล้วถ้าอาทิตย์ไหนน้าว่างจะนั่งรถทัวร์มาหาแหม่มก็ได้ ถึงเขาอยู่ก็ไม่เป็นไร เพราะเขาก็รู้อยู่แล้วว่าแหม่มเป็นหลานสาวของน้า..หรือไม่ยังงั้นเราก็นัดกันที่โรงแรมหรือบังกาโลว์แถวนอกๆ เมืองก็ได้จริงมั้ยคะ”

“ถ้ายังงั้นจริงก็สนุกแน่นอนแหม่มจ๋า…น้าจะมาบริการให้ถึงที่เลยทุกๆต้นเดือน” “ดีค่ะ แล้วทุกๆกลางเดือนแหม่มจะเข้ากรุงเทพฯไปหาน้านะคะ” ครับ น้าๆหลานๆเลยมันส์สะบัดช่อ ล่อกันเดือนละ2ช่วง แต่เดียวนี้ผมกับแหม่มไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยครับ เพราะตั้งแต่กลางปีที่แล้วเธอต้องโยกย้ายตามสามีไปเปิดร้านค้าขายที่ลาวเป็นการถาวร ซึ่งก็ดีเหมือนกัน เพราะความลับย่อมไม่มีในโลกขืนยังโขยกกันต่อไปอีกอาจจะถูกสามีเธอจับได้ก็ได้นะครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *