สวัสดีครับ ผมมีเรื่องราวที่ประทับใจเก็บเอาไว้นานแล้ว อยากจะแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมได้มีโอกาสไปค่ายลูกเสือของจังหวัดมา ผมไม่ใช่ลูกเสือหรอกครับ แต่เป็นครูที่ต้องรับผิดชอบพานักเรียนไปเข้าค่ายลูกเสือ ผมอายุ 26 ปีเป็นครูมา 3 ปีแล้ว เพิ่งจะได้มาค่ายนอกโรงเรียนครั้งนี้เป็นครั้งแรก ดังนั้นงานรับผิดชอบสำคัญๆ เลยไม่ค่อยมีเท่าไหร่ครับ ได้แต่ดูแลลูกเสือที่ผมพามาให้อยู่ในความเรียบร้อยปลอดภัยเท่านั้นเอง และในค่ายครั้งนี้ไม่ได้มีแต่ลูกเสือเท่านั้นที่มาร่วมค่าย เนตรนารีก็มีมาเหมือนกัน ทั้งสามัญ สามัญรุ่นใหญ่ มากันครบเลยครับ
ทีแรกผมเองก็ตั้งใจว่าจะดูแลนักเรียนของตนเองให้มันเสร็จๆเรื่องไป จริงๆก็ไม่ได้อยากมาค่ายนี้ด้วยซ้ำ เพราะเสียเวลาที่จะต้องสอนนักเรียนตั้ง 2 วัน (ค่ายนี้จัด 4 วัน พฤหัสถึงอาทิตย์เลยครับ) แต่สิ่งที่ทำให้ผมลืมเรื่องงานที่โรงเรียนไปเลยก็คือเธอคนนี้ครับ…
นุ่นเป็นเนตรนารีสามัญจากโรงเรียนในจังหวัดเดียวกัน(ขอสงวนนามโรงเรียน นะ ครับ) เธออยู่ ป.6 ครับ มีเพื่อนๆเธอมาด้วยกันอีก 7 คน แต่ผมสนใจนุ่นมากที่สุด เพราะนุ่นเค้าดูสดใสร่าเริง น่ารัก ผิดกับเนตรนารีคนอื่นๆในค่าย พูดง่ายๆก็คือเห็นแล้วมันเตะตาผมน่ะแหละ ผมได้พบกับเธอครั้งแรกก็ตอนที่ต้องมาลงทะเบียนว่านักเรียนโรงเรียนไหนมากัน กี่คน โรงเรียนของเธอลงทะเบียนต่อจากโรงเรียนของผมพอดีครับ “ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้ผมก่อนจะรับปากกาไปเขียนชื่อของเธอ เสียงขอบคุณของนุ่นฟังแล้วรื่นหูมากเลยครับ ฟังแล้วทำให้ผมรู้สึกได้ว่าเธอขอบคุณผมจากใจจริง และนี่ก็คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมเริ่มสนใจในตัวเธอ…
หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว ผมก็ไปช่วยเนตรนารีกลุ่มของนุ่นกางเต้นด้วย พอดีว่าผู้กำกับของพวกเธอคุยธุระอยู่น่ะครับ พวกของนุ่นดูยังเด็กเกินไปที่จะมาค่ายแบบนี้ เพราะนอกจากจะกางเต้นกันไม่เป็นแล้ว พวกเธอยังนั่งเปิดหวอให้ผมดูแทนคำขอบคุณกันแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ดีนะที่ผมบังเอิญอยู่แถวนั้น เลยได้เห็นของดีแบบนี้คนเดียว(อ่ะนะ) และจุดเริ่มต้นนี้ก็ทำให้ผมคิดกับนุ่นไกลกว่าที่ครูควรจะคิดกับลูกศิษย์ แต่ในวันนั้นก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านั้นครับ
ในวันที่สองเป็นวันที่ต้องเดินทางไกล หมู่ลูกเสือของผมได้เดินนำหน้าหมู่ของนุ่น แต่พวกมันเดินกันเร็วแล้วผมก็สนใจกลุ่มของนุ่นมากกว่า (ผู้กำกับของพวกเธอปล่อยปละละเลยอีกตามเคย) เลยกลายเป็นผมเดินนำหน้ากลุ่มของนุ่นไป และระหว่างนั้นก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นครับ อากาศวันนี้ค่อนข้างร้อน แม้จะเดินในร่มไม้เพื่อคลายร้อนก็ช่วยไม่ได้มาก ในไม่ช้าระหว่างที่ต้องเดินทางจากฐานที่ห้าไปสู่ฐานที่หก อยู่ๆ เธอก็เป็นลมล้มลงไปกองกับพื้น เพื่อนๆ ของนุ่นรีบเข้าไปมุงกันใหญ่ ผมเองก็ไม่ยอมยืนดูเฉยๆ รีบเข้าดูอาการของนุ่นทันที “ถอดกระดุมเสื้อนุ่นหน่อย จะได้หายใจสะดวกๆ” ผมสั่งพวกเพื่อนสาวของเธอไปตามวิธีการที่ควรจะทำเวลาที่มีคนเป็นลม ในใจตอนนั้นไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นนะครับ แต่แล้วพวกเพื่อนๆ ของนุ่นก็ทำให้ผมคิดจนได้ พวกเพื่อนๆ ของนุ่นดันปลดกระดุมเสื้อของเธอออกหมดทุกเม็ดเลยครับ ภาพที่ผมเห็นเบื้องหน้าทำเอาผมอ้าปากค้างไปเลย
นุ่นไม่ได้ใส่เสื้อในครับ ภายใต้อกเสื้อที่ขยับขึ้นลงเบาๆตามจังหวะการหายใจ มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ที่กระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นของผมยิ่งนัก “พวกเธอออกไปยืนห่างๆหน่อย เดี๋ยวเพื่อนไม่มีอากาศหายใจ” ผมทำเป็นไล่เพื่อนๆของนุ่นออกไป จริงๆ แล้วเพราะจะได้เป็นคนดูแลนุ่นอย่างใกล้ชิดนั่นเอง พอได้เข้ามาใกล้ๆ นุ่นแล้ว กลิ่นตัวของเธอบวกกับกลิ่นเหงื่อยิ่งทำให้อารมณ์ของผมเตลิดไปไกล “ร้อนมั๊ย…นุ่น” ผมถามทั้งๆที่ยังพัดให้เธออยู่ นุ่นพยักหน้าเบาๆ ในลักษณะของคนที่อ่อนระโหยโรยแรง ผมมองไปรอบๆให้แน่ใจอีกครั้งว่าไม่มีใครอยู่แถวๆนั้น พวกเพื่อนๆ ของเธอก็ยืนอยู่ด้านหลังของผม ซึ่งไม่มีโอกาสจะเห็นว่าผมทำอะไรนุ่นบ้าง “ดีขึ้นรึยัง…” ผมเอ่ยปากถามไป เอาหมวกพัดให้เธอไป ผมแกล้งพัดแรงๆ จนเสื้อที่ปิดหน้าอกของเธอกระพือออก จนผมได้เห็นสิ่งที่อยู่ในนั้น
นุ่นเริ่มมีหน้าอกแล้วจริงๆครับ มันเป็นเนินนูนขึ้นมาขนาดย่อมๆ ดูแล้วงดงามมาก หัวนมของเธอเป็นสีชมพูเข้มๆ ที่ใกล้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเต็มที ผิวพรรณขาวๆ ของเธอยิ่งชวนให้เนินอกน้อยๆ นั้นมีเสน่ห์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เธอส่ายหัวตอบผมเบาๆพร้อมกับส่งสายตาที่อ่อนระโหยโรยแรงมาให้ ผมไม่ควรจะฉวยโอกาสกับนุ่นเลยจริงๆ แต่พอได้เห็นหน้าอกเด็กป.6 ลอยอยู่ตรงหน้าชัดๆ แบบนี้ ในหัวผมมีแต่ความสงสัยต่างๆนานาเต็มหัวไปหมด …หน้าอกนุ่นมันจะนิ่มขนาดไหนนะ… …ถ้าเขี่ยโดนหัวนมแล้วนุ่นจะเสียวเหมือนผู้ใหญ่รึเปล่า… …นุ่นจะทำหน้ายังไงเวลาที่เธอเสียว… ทุกเรื่องล้วนแล้วแต่เป็นความคิดอกุศลทั้งสิ้น แต่ผมก็ปล่อยให้มันวนเวียนอยู่ในหัวผมไม่หยุด อากาศที่แสนร้อนส่งผลให้เหงื่อของนุ่นเริ่มออก เมื่อรวมกับความที่เธอยังเด็ก ทำให้ผมกล้าพูดอะไรแผลงๆออกมาอีกจนได้
“เหงื่อออกเต็มเลย เดี๋ยวครูเช็ดให้นะ” ผมล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา พับเป็นผืนสี่เหลี่ยมเล็กๆแล้วประทับลงบนยอดอกของนุ่น ผ้าเช็ดหน้าผมเล็กกว่ามือ ทำให้นิ้วทั้งสี่ของผมสัมผัสกับผิวของเธอโดยตรง ผมลากมือจากบนลงล่างเช็ดเหงื่อให้เธอด้วยความทะนุถนอม ใบหน้าภายนอกของผมนั้นดูเฉยเมย แต่ในใจผมอยากจะร้องตะโกนออกไปด้วยความสุขใจ เนินอกของนุ่นนิ่มมือผมมากครับ เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสหน้าอกของเด็กผู้หญิงจริงๆ มันจะเป็นความทรงจำที่ประทับใจผมไม่ลืมแน่นอน ผมทำทีเป็นเช็ดตรงโน้นตรงนี้ แล้วก็แวะมาที่หน้าอกของนุ่นบ่อยๆ ใจเธอเต้นถี่รัวกว่าปกติจนผมรู้สึกได้ ในไม่ช้าผมก็รู้สึกว่าหัวนมของนุ่นมันแข็งตัวขึ้นมาครับ มันตั้งยอดชี้ขึ้นฟ้าให้เห็นเด่นชัด ผมได้แต่จ้องมันด้วยความรู้สึกทึ่งเป็นที่สุด เด็กป.6อย่างนุ่นก็รู้จักมีอารมณ์เป็นเหมือนกัน ได้เห็นแบบนี้แล้วเจ้าหนูของผมมันก็เริ่มคึกคักขึ้นมาทันที
มันคงอยากจะทำหน้าที่ของมันเต็มที่แล้ว แต่ผมคงยอมให้มันทำลายชีวิตของผมไม่ได้หรอก
“เป็นลมอย่างนี้บ่อยมั๊ย” ผมหาเรื่องอื่นถาม ไม่อยากให้บรรยากาศมันดูตึงเครียดเกินไป เพราะดูเหมือนตอนนี้นุ่นจะไม่กล้าสบตาผมแล้ว (ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น นั่นแหละ) นุ่นส่ายหน้าแล้วก็ตอบผมว่า “เมื่อเช้าหนูไม่ได้กิน ข้าวมาค่ะ” เธอตอบแบบไม่มองหน้าผม แอบสังเกตที่นิ้วของเธอก็เห็นว่านุ่นเอานิ้วเขี่ยต้นหญ้าแถวนั้นเล่น ให้ตายสิ…นี่มันเป็นอาการเสียวของเด็กป.6ที่ดูน่ารักมากๆ เลยนะครับ “นั่นไง…ครูว่าแล้วเชียว ดูสิ…หัวนมถึงได้ตั้งแบบเนี่ยะ” ผมหาเรื่องหลอกนุ่นจะได้จับหน้าอกเธอได้โดยที่เธอไม่รู้สึกผิดปกติ สำหรับเด็กที่ยังไม่ประสีประสาแบบนี้ ไม่มีทางตามอุบายของผมทันอยู่แล้ว ผมได้ทีเลยเอานิ้วชี้คลึงหัวนมของนุ่นเล่น เด็กสาวถึงกับถอนหายใจเฮือก แล้วก็บิดตัวไปมาเล็กน้อย แบบว่านอนอยู่เฉยๆ ไม่ได้น่ะครับ “อึดอัดแย่เลยใช่มั๊ย…” นุ่นรีบพยักหน้าทั้งๆ ที่ยังโดนผมเขี่ยหัวนมอยู่ เธอคงยังไม่รู้ว่าความเสียวที่เธอกำลังเผชิญอยู่นั้น มันต่างจากความอึดอัดยังไง ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้งานของผมง่ายเข้าไปอีก
“ครูอยากจะช่วยนุ่นนะ แต่นุ่นต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะวิธีนี้มันอันตราย (กับครู…เหอะๆๆ)” นุ่นทำหน้างงๆ “แต่ไม่ต้องห่วง ไม่เจ็บหรอก ครูเรียนวิธีนี้มา…โอเคนะ” ผมปลอบให้เธอสบายใจขึ้น นุ่นพยักหน้ากำลังจะเข้าทางผมอยู่แล้ว พวกเพื่อนๆ ของนุ่นก็เข้ามาถามอาการของเธอ ผมรีบดึงเสื้อของนุ่นมาปิดไว้ตามเดิม นุ่นลุกขึ้นนั่งแล้วก็ติดกระดุมเสื้อของเธออย่างเขินๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนให้เพื่อนเห็นว่าเธอเดินไหวดีแล้ว ในตอนนั้นผมล่ะหน้าซีดเลย กลัวว่านุ่นจะบอกเรื่องนี้กับเพื่อนๆ ของเธอ แต่จนแล้วจนรอดตลอดเวลาที่พวกเธอเดินทางไกลหลังจากนั้น ก็ไม่มีทีท่าว่านุ่นจะพูดเรื่องระหว่างผมกับเธอให้ใครฟังเลย นุ่นเองก็ดูจะสบายดีแล้ว ผมก็หมดห่วง จึงขอแยกตัวไปดูแลเจ้าพวกลูกเสือของผม
กลับมาถึงค่ายลูกเสือก็เวลาเที่ยงพอดีครับ กับข้าวมื้อเที่ยงเป็นผัดผักกับไก่ทอดใส่ถาดหลุม ลูกเสือหมู่ที่มาถึงก่อนก็มาเข้าแถวรับข้าวไปก่อน ลูกเสือของผมมาถึงเป็นกลุ่มแรกๆ ผมก็ตักข้าวแล้วไปนั่งกินกับพวกลูกเสือโรงเรียนของผม คุยกันเรื่องฐานเดินทางไกลวันนี้ไปซักพัก เนตรนารีหมู่ของนุ่นก็เดินมาครับ ต่างคนต่างก็ถือถาดอาหารมาคนละอัน เดินหาที่นั่งทานกันอยู่ พอดีว่าที่นั่งไม่ไกลจากที่ผมนั่งมากนักมีที่ว่างพอดี พวกเธอจึงไปนั่งที่นั่น ทีแรกผมก็ว่าจะทำเป็นไม่สนใจพวกเธอ แต่แล้วผมก็ทำใจนิ่งเฉยไม่ได้ครับ ลูกเสือในหมู่ของผมอยู่ๆก็หัวเราะขึ้นมาแล้วก็ชี้ให้เพื่อนๆในกลุ่มดูกัน ใหญ่ ผมถึงได้รู้ตัวทีหลังว่านุ่นเปิดหวอเป็นอาหารตาให้เจ้าพวกลูกเสือของผมซะ แล้ว สีเดิมเลยครับ…สีชมพู “นี่! ก้มหน้าก้มตากินข้าวไป ใครหันไปมองอีก ครูจะเอาไม้จิ้มตาพวกเธอ” ผมพูดขู่เด็กๆ ของผมจากใจจริงเลยครับ ไม้ก็ถือเตรียมไว้แล้วด้วย พอกำหราบเด็กๆ ของผมเสร็จผมก็หันไปทางนุ่น ชี้ให้เพื่อนๆ ของเธอรู้ว่านุ่นทำอะไรลงไป
พอนุ่นรู้ตัวเข้าก็รีบหุบขาแล้วหันหน้าหนีผมทันที ทั้งลูกเสือของผมและเนตรนารีเพื่อนของนุ่นหัวเราะกันใหญ่ ผมห้ามความคิดพวกเธอไม่ได้ ได้แต่หันมาปรามเด็กๆของผมเท่านั้น ผมอบรมเจ้าพวกจอมทะลึ่งทั้งหลายไปยกใหญ่ จะว่าไปก็รู้สึกเหมือนใส่อารมณ์หึงหวงเข้าไปนิดๆ ด้วยนะ ผมไม่ได้เจอกับพวกของนุ่นอีกเลยจนถึงเย็น เพราะช่วงบ่ายเป็นการอบรมกลุ่มย่อยและโรงเรียนของเราก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม เดียวกัน พอได้พบกันนุ่นก็จะรีบเดินหนีหน้าผมไปทันที ตามมาด้วยพลพรรคของนุ่นที่คอยกระเซ้าเย้าแหย่เธอ เห็นแบบนั้นผมก็สงสารนุ่นอยู่เหมือนกัน แต่อีกใจนึงก็โล่งอก เพราะจนป่านนี้ก็ไม่เห็นมีทีท่าว่าจะมีใครรู้เรื่องที่ผมทำกับนุ่นเมื่อช่วง เช้าเลย ผมได้แต่กำชับตัวเองว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่เกิดเรื่องวุ่นวาย แต่ผมก็เตือนตัวเองแบบนั้นได้ไม่ถึงครึ่งวันครับ คืนวันนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้…
ตกกลางคืนทางค่ายลูกเสือให้นักเรียนเข้านอนก่อนห้าทุ่ม ส่วนคุณครูที่เป็นผู้กำกับก็ต้องคอยดูแลความปลอยภัยให้กับนักเรียนทั้งคืน ก็ผลัดเปลี่ยนกันคนละ 3 ชั่วโมงน่ะครับ แล้วผมก็ได้ช่วงเที่ยงคืนถึงตีสาม ตำแหน่งที่ดูแลก็ระหว่างเต้นท์เนตรนารีกับลูกเสือพอดี (ก็ค่ายนี้มีทั้งชายหญิง เวลากางเต้นท์นอนใกล้ๆกันแบบนี้ มันก็ต้องมีผู้กำกับคอยดูแลหน่อย) ผมเตรียมเก้าอี้มานั่งตามตำแหน่งเหมือนวันแรก บรรยากาศตอนกลางคืนนั้นหนาวมาก ผมใส่ชุดค่อยข้างหนาเพื่อสู้กับความหนาวเย็นนั่น นั่งเฝ้าพรมแดนชายหญิงไปซักพักเต้นท์ของนุ่นก็มีปฏิกิริยา เหมือนกับมีคนลุกขึ้นมา ผมส่องไฟฉายไปทางนั้น ลุ้นว่าใครกำลังจะออกมา และแล้วก็เป็นนุ่นครับที่ออกมาจากเต้นท์ “ดึกแล้วนะ…นอนได้แล้ว” ผมบอกเธอเหมือนๆ กับบอกลูกเสือคนอื่นๆที่ชอบตื่นขึ้นมากลางดึก แต่ในใจนั้นแสนจะดีใจที่มีโอกาสเจอกันเธออีกครั้ง “หนูจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ” ดูเธอยังงัวเงียเพราะเพิ่งจะตื่นนอนมา พูดจาก็ยังฟังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ “แต่เพื่อนไม่ยอมตื่นไปกับหนูด้วย” ก็แน่ล่ะ…ใครอยากจะตื่นกลางดึกไปรอเพื่อนฉี่ทั้งๆ ที่ต้องเดินทางไกลทั้งวันกันล่ะ และแถวนั้นก็ไม่มีผู้กำกับหญิงคนอื่นเลย (หลับหมดแล้ว) ผมจึงอาสาพานุ่นไปเองครับ เป็นไง…ดูเป็นสุภาพบุรุษดีใช่มั๊ยล่ะ
นุ่นใส่ชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีแดงๆ แบบที่ผู้หญิงชอบใส่ไปวิ่งจ๊อกกิ้งกันน่ะครับ ขาขาวๆของนุ่นแม้ในยามดึกที่ไม่ค่อยมีแสงไฟ มันก็ยังน่ามองอยู่ดี เธอค่อยๆเดินเข้ามาหาผม แต่ทันใดนั้นเอง เธอก็ไปสะดุดกับสายเต้นที่เขาขึงเอาไว้ แล้วถลาเข้ามาหาผม จังหวะมันกระทันหันมาก ผมก้มลงคว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทัน ใบหน้าของนุ่นซบลงเหนือหน้าอกผม หน้าผากเธอก็ตรงกับปากผมพอดี บรรยากาศรอบๆข้างที่หนาวเย็นก็ดูจะเป็นใจ ผมประคองร่างของนุ่นที่ทั้งอ่อนนุ่มแล้วก็เบาหวิวสมกับชื่อของเธอ พร้อมกับฉวยโอกาสที่ไม่น่าจะมีบ่อยนัก จูบเธอที่หน้าผากจังๆไปหนึ่งที “เป็นอะไรรึเปล่า…” พร้อมกันนั้นก็เอ่ยปากถามเด็กสาว โดยมือของผมก็ยังคงประคองเธอเอาไว้ไม่ปล่อย “อ่ะ…เอ่อ… ขอโทษค่ะครู” นุ่นยังตกใจที่ตนเองถลามาล้มใส่ผม จนไม่รู้ว่าจริงๆแล้วผมโคตรจะดีใจเลย “ครูถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า… ไม่ได้ให้ขอโทษครูซะหน่อย” ผมไม่รับคำขอโทษของนุ่น พร้อมกับจูบหน้าผากเธอแถมไปอีกรอบ คราวนี้ปฏิกิริยาของนุ่นคือนิ่งไปเลยครับ เธอคงรู้แล้วว่าผมทำอะไรลงไปกับเธอ
ยิ่งได้ใกล้ชิดนุ่นแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกรักเธอขึ้นทุกที ผมแกล้งเอามือจับหน้าอกนุ่นพยุงเธอให้ลุกขึ้นยืน แล้วก็ทิ้งมือเอาไว้อย่างนั้น “ลุกไหวมั๊ย” นุ่นพยักหน้าตอบผมโดยไม่มีท่าทีจะปัดป้องหน้าอกของเธอเลย ไม่รู้ว่าเคยชินที่ถูกผมจับแล้วหรือว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ “เดินตามครูมาละกัน เดี๋ยวสะดุดเต้นท์คนอื่นอีก” ผมจับมือนุ่นจูงเธอเดินผ่านแนวที่ลูกเสือกางเต้นท์กัน มือของนุ่นทั้งนิ่มทั้งอุ่นจนผมรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับมัน จนกระทั่งมาถึงหน้าห้องน้ำที่แยกออกมาจากตัวค่าย ไกลออกไปประมาณ 100 เมตร ผมปล่อยให้นุ่นเข้าไปทำธุระส่วนตัวของเธอ คิดอะไรเพลินๆ ไปซักพักนุ่นก็ทำธุระเสร็จ เธอเดินออกมาพร้อมกับใบหน้าอายๆ ดูเหมือนเธอมีอะไรจะพูดกับผม แต่ก็ไม่พูด ผมจึงขอเสี่ยงเป็นฝ่ายถามก่อนเสียเอง “ว่าไง…หัวนมแข็งขึ้นมาอีกรึไง…” ผมถามทีเล่นทีจริงไป เดาจากอาการของเธอ พอนุ่นได้ยินที่ผมถามเข้าเธอก็พนักหน้าเบาๆ หนึ่งที แต่ฝ่ายผมพอได้เห็นเธอตอบแบบนั้นแล้วโคตรจะดีใจเลย โอกาสดีๆแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆนะเนี่ยะ “อยู่ๆ มันก็แข็งขึ้นมาอีกอ่ะค่ะ” เด็กสาวก้มหน้าทำท่าเหมือนสำนึกผิดที่มารบกวนผม แต่ผมเดาว่าเธอคงจะอายมากกว่าที่มาขอให้ผมช่วยดูอาการของเธอ ซึ่งมันก็ดีแล้ว (ขืนไปขอให้ผู้กำกับของเธอช่วย ผมเองแหละจะซวยเอา)
“งั้น…ตามครูมานี่” ผมพานุ่นหลบไปหลังห้องน้ำ แสงไฟส่องมาไม่ถึง เราแทบจะมองไม่เห็นหน้ากันและกัน แต่นั่นก็ทำให้คนภายนอกไม่เห็นเราเช่นกัน ผมให้นุ่นนั่งกับแคร่ไม้บริเวณนั้นผมนั่งข้างๆเธอ แล้วบอกเธอให้ถกเสื้อขึ้น นุ่นยอมทำตามอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ผมสอดมือเข้าไปคว้าหน้าอกของเธออีกครั้ง มันยังคงนุ่มนิ่มสมชื่อเจ้าของอยู่เหมือนเคย ผมไล่นิ้วไปจนกระทั่งโดนหัวนมของนุ่นที่รออยู่ มันแข็งขึ้นมาอย่างที่เธอบอกจริงๆครับ “อืม…สงสัยอาการจะกำเริบนะนุ่น” ผมพูดอย่างนั้นพร้อมกับจับเธอนั่งตักผม “ขอครูเช็คอาการให้แน่ใจหน่อยนะ” ด้วยท่านี้ทำให้ผมสามารถจับนมทั้งสองข้างของนุ่นได้สะดวก นิ้วชี้กับนิ้วโป้งสลับกับถูไถหัวนมของนุ่นไม่หยุด ให้เธอรู้สึกว่าผมกำลังเช็คอาการของเธออยู่ นุ่นแสดงอาการออกมาโดยมีลมหายใจแผ่วๆให้ผมได้ยิน “นอกจากตรงหัวนมแล้ว… มีตรงไหนอีกมั๊ยที่แข็งขึ้นมา” ท่าทางนุ่นจะยังไม่เคยรู้สึกตัว หรือเพราะไม่กล้าที่จะตอบก็ไม่รู้ เธอนิ่งไปครู่ใหญ่ไม่ยอมตอบคำถามผม “ถ้าไม่ตอบตามตรง ครูช่วยนุ่นไม่ได้นะ” ผมพยายามพูดชักจูงนุ่นให้ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเชิญชวน ไม่ใช่บังคับ “เอ่อ…มีค่ะครู…” ในที่สุดนุ่นก็ตอบ “ตรง…” นุ่นอ้ำๆอึ้งๆไม่ยอมตอบตรงๆ ผมเองก็ไม่ได้บังคับจะให้เธอตอบให้ได้ เดาจากท่าทางก็พอจะรู้
“งั้นขอครูตรวจดูตรงนั้นด้วยได้มั๊ย” อีกครั้งที่ผมเชิญชวนเธอให้ยอมผม นุ่นนิ่งไปอีกครั้งและผมก็ถือว่าท่าทีนั้นเป็นการตกลง ผมยอมให้มือขวาข้างที่ถนัดละออกจากหน้าอกนุ่นลงไปสู่เป้าหมายที่อยู่ต่ำกว่า ไม่เสียเวลามากนักในที่สุดมือผมก็มุดเข้าไปในกางเกงในของนุ่น สอดนิ้วกลางเข้าไปหาปุ่มสยิวที่เธอหวงแหน สะกิดมันเพียงเล็กน้อย นุ่นก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมาพยายามจะส่ายเอวหนีสัมผัสจากผม “อ่อ…ครูเจอแล้ว ไม่ต้องกลัวนะนุ่น ครูจะทำให้นุ่นสบายขึ้นเอง” ว่าแล้วผมก็ดันนิ้วกลางลงลึกไปถึงรูสยิวของนุ่น สัมผัสบริเวณนั้นเจิ่งนองไปหมด ทีแรกผมคิดว่าเป็นฉี่ของเธอเพราะเพิ่งเข้าห้องน้ำมา แต่พอแตะดีๆก็รู้สึกว่ามันเหนียวๆ นี่แสดงว่าร่างกายของนุ่นมีทุกอย่างที่เพียบพร้อมสำหรับการเจริญพันธุ์แล้ว สินะ ข่าวดีนี้ทำเอาผมหน้ามืดตามัวไปหมด มาถึงขั้นนี้แล้วจะไม่ลุยให้ถึงที่สุดก็น่าเสียดายแย่ “ถอดกางเกงออกซิคนเก่ง ขอครูดูให้ชัดๆหน่อย” ท่าทางนุ่นจะเริ่มเคลิบเลิ้มไปกับผมด้วยเหมือนกัน เธอถอดทั้งกางเกงและกางเกงในออกอย่างว่าง่าย วางกองทิ้งเอาไว้กับพื้น ผมสั่งให้นุ่นถ่างขาออกเธอก็ทำ ผมละมือซ้ายไปคว้าไฟฉายมาเปิดส่องร่องรักของนุ่น
แสงจากไฟฉายสะท้อนกลีบสวาทของเธอเป็นสีชมพูดูงดงามมาก รูของเธอยังดูใหม่ไม่เคยมีใครได้ล่วงล้ำมาก่อนแน่นอน และผมจะเป็นคนแรกของมัน แต่ผมจะไม่บอกความจริงทั้งหมดหรอก “อืม…ดีนะที่นุ่นมาให้ครูดูตอนนี้น่ะ ถ้าช้ากว่านี้อาจจะไม่ทันแล้วก็ได้” ติ่งเสียวน้อยๆที่ซ่อนอยู่ถูกผมเขี่ยไปมาตลอดไม่ปล่อยให้พัก นุ่นขยับตัวไปมาบนตักของผมพยายามจะระบายความเสียวด้วยการกำชายเสื้อของเธอ “นุ่นจะยอมให้ครูรักษารึเปล่า…” เด็กสาวพยักหน้า “แน่ใจนะว่านุ่นจะไม่บอกเรื่องที่ครูรักษานุ่นให้ใครฟัง” นุ่นพยักหน้าอีกครั้งพร้อมกับกลืนน้ำลายเพราะความเสียว “วิธีรักษามีหนทางเดียวคือนุ่นต้องยอมให้ครูเย็ดนะ” คราวนี้นุ่นนิ่งเงียบไปไม่พยักหน้าตอบเหมือนเคยครับ แสดงว่าเธอยังพอมีสติอยู่ และมันก็ทำให้ผมเสียวมาก กลัวว่าเธอจะไม่เอาด้วย “เย็ดนี่… หมายถึงเอากันใช่มั๊ยคะ” ผมพยักหน้าตอบนุ่น แน่นอนว่านิ้วผมก็ยังวนเวียนอยู่ที่ติ่งสยิวของนุ่นอยู่ “การเย็ดกันจะทำให้นุ่นรู้สึกสบาย นุ่นจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ไง” ผมให้คำอธิบายเสริม ดูท่าทางเธอจะทรมานกับความเสียวที่ผมสร้างให้เธอมากทีเดียว เพราะในไม่ช้านุ่นก็ตอบตกลงรับการ (เย็ด) รักษาจากผม
ผมจับนุ่นพลิกไปนอนหงายอยู่บนแคร่ ถอดกางเกงของตัวเองออก ของผมมันไม่ใหญ่มากหรอกครับ ขนาดขยายเต็มที่แล้วก็ยังใหญ่กว่านิ้วโป้งไม่มากนัก ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีกับตัวนุ่นมากกว่า “หลับตาซะ ทำตัวตามสบายนะ ถ้าเจ็บจนทนไม่ไหวก็บอกครูเบาๆนะ” ผมกำชับเด็กสาว ไม่อยากให้เธอร้องลั่นค่ายให้ใครมาเห็นเข้า นุ่นพยักหน้าตอบแล้วก็หลับตาตามคำสั่ง ผมจึงจับขาเธอแยกออก แหวกกลีบเสียวของเธอ แล้วค่อยๆส่งเจ้าดิ๊กของผมมุดเข้าร่องสยิวของนุ่น น้ำเสียวของเธอช่วยให้งานของผมง่ายขึ้น เจ้าดิ๊กค่อยๆมุดเข้าไปเรื่อยๆ โดยที่นุ่นออกอาการเพียงเสียงครางในลำคอเท่านั้นเอง แต่สำหรับผมแล้วสัมผัสสุดสยิวนี้ยิ่งกว่าความฝันซะอีก ร่องเสียวของเธอตอดรัดเจ้าดิ๊กของผมอย่างแนบแน่น แม้จะอึดอัดแต่ก็ให้ความรู้สึกที่ดีจนไม่อยากจะทำอะไรอย่างอื่น ผมดันเข้าไปจนกระทั่งชนอะไรบางอย่างเข้า ทำเอานุ่นสะดุ้งขึ้นมาเลย “ตรงนี้จะเจ็บหน่อยนะ… ไหวมั๊ย” ผมเอ่ยถามความสมัครใจก่อนจะทำลายความบริสุทธิ์ของนุ่น เด็กสาวลืมตาขึ้นมามองผม ส่งสายตาประมาณว่าไม่อยากให้ผมทำเธอเจ็บ แต่ตอนนี้มันหยุดไม่ได้แล้วครับ เจ็บก็ต้องเจ็บล่ะนะนุ่นเอ๋ย…
“อืออออออ!” ผมดันเจ้าดิ๊กทะลุผ่านสิ่งที่กางกั้นความสุขของผมขาดสะบั้นไม่มีชิ้นดี นุ่นพยายามกลั้นใจไม่ร้องออกมาดังๆ ซึ่งผมต้องก็ยอมรับความอดทนของเธอเป็นอย่างมาก ใจจริงนุ่นคงอยากจะร้องออกมาดังๆใจจะขาด น้ำตาเธอคลอเบ้าตา “ครูขาาาา…” น้ำเสียงสั่นเครือจนผมเองก็พลอยรู้สึกสงสารเธอไปด้วย “ไม่ต้องกลัวนะนุ่น เวลาฉีดยาก็ต้องเจ็บแบบนี้แหละ เจ็บแค่ตอนนี้เท่านั้น หลังจากนี้จะสบายแล้ว” ผมปลอบนุ่น ลูบหัวเบาๆ แล้วก็หอมแก้มเธอ ปล่อยเจ้าดิ๊กให้พักอยู่ในร่องสยิวของนุ่นชั่วคราว จนกระทั่งนุ่นหายจากอาการตกใจแล้ว แน่นนอนว่าเธอยังเจ็บอยู่ “ต่อนะ…” นุ่นใจแข็งมาก เธอพยักหน้าตอบผมทั้งๆที่ยังเจ็บอยู่ ผมจึงเริ่มซอยเจ้าดิ๊กของผมใส่ร่องสยิวของนุ่นอย่างไม่เร่งร้อน “เก่งมาก…นุ่น เป็นเนตรนารีต้องอดทนให้ได้แบบนี้นะ” ผมกล่าวชมเธอต่างๆนานา อยากให้นุ่นรู้สึกว่าการที่เธอยอมให้ผมเย็ดมันเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง ไม่รู้ว่านุ่นฟังอยู่รึเปล่า เพราะเธอเอาแต่หลับตาปี๋ ส่ายหัวไปมาไม่หยุด
เมื่อเห็นว่านุ่นไม่ร้องเสียงดังแน่ๆแล้ว ผมจึงเริ่มซอยเจ้าดิ๊กให้เร็วขึ้น ปากก็ระดมไซ้ซอกคอของนุ่น สูดดมกลิ่นเหงื่อของเธอที่ไหลซึมออกมา กลิ่นของนุ่นบวกกับเสียงครางของเธอยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์ ผมจับขานุ่นยกขึ้นชี้ฟ้าทั้งสองข้างแล้วก็ซอยต่อ ดูเหมือนเสียงร้องบ่นว่าเจ็บของเธอจะหายไปแล้ว เหลือแต่เสียงครางเพราะความเสียวเท่านั้น “เป็นไงบ้างนุ่น… ยังอึดอัดอยู่มั๊ย” นุ่นพยักหน้าปะหลกๆ ดูสีหน้าเธอเหมือนจะอึดอัดซะยิ่งกว่าตอนแรกซะอีก “งั้นครูคงต้องซอยให้เร็วขึ้นอีกนะ” นุ่นพยักหน้ายอมรับชะตากรรมของเธอ ผมก็ไม่รอช้าซอยเจ้าดิ๊กสุดกำลังใส่ร่องสยิวของนุ่น ภายในรูของเธอนั้นขมิบตอดรัดเจ้าดิ๊กของผมอย่างแนบแน่น ดูท่าทางมันเองก็ไม่อยากปล่อยให้เจ้าดิ๊กของผมหลุดไปเหมือนกัน “อาาาา…ใกล้แล้วล่ะนุ่น ใกล้จะเสร็จแล้ว” เด็กสาวป.6ที่ไร้ประสบการณ์ ตอนนี้นอนดิ้นไปมาเพราะความเสียวที่ผมมอบให้ เธอทำหน้างอเหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่ก็ยังใจแข็งอดทนมาจนถึงช่วงโค้งสุดท้าย “อืออออ…อือออออ…อือออออ” สิ้นเสียงอือที่สามของนุ่น ผมก็ถึงสวรรค์ ดูเหมือนนุ่นก็คงจะเสร็จพร้อมผมด้วย เพราะตัวเธอกระตุกร่องเสียวก็ขมิบเป็นระยะๆ เจ้าดิ๊กของผมพ่นน้ำใส่นุ่นอย่างไม่มียั้ง ไม่รู้ว่าเยอะแค่ไหน แต่รู้ว่าผมมีความสุขที่สุดในชีวิตเลย ร่องเสียวของนุ่นจะอยู่ในความทรงจำของผมไปอีกนานแสนนานแน่นอน
ผมคาเจ้าดิ๊กเอาไว้พักหนึ่งให้นุ่นได้นอนพัก ก่อนจะค่อยๆ ถอนมันออกมาเบาๆ แล้วเก็บเข้ากางเกงของผม นุ่นค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นมาโดยมีผมโอบเธอเอาไว้จากด้านหลัง “เป็นยังไง สบายขึ้นรึยัง” ดูนุ่นยังคงงงๆอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ “ครูรักษาให้นุ่นเสร็จแล้วนะ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว” ผมบอกไปอย่างนั้น นุ่นก็ยกมือไหว้ขอบคุณผม โอ้โฮ…มันเป็นภาพที่ประทับใจผมมากเลยครับ ลองคิดดูสิ ผมเย็ดระบายความใคร่ใส่นุ่น เสร็จงานแล้วเธอก็ยกมือไหว้ขอบคุณที่ผมเย็ดเธอ “มันยังไม่หายขาดหรอกนะนุ่น ถ้ารู้สึกอยากให้ครูเย็ดอีกก็มาหาครูได้นะ…ทุกเมื่อเลย” ผมลูบหัวเธอ ให้กำลังใจเธอแล้วก็ช่วยเธอแต่งตัว จากนั้นเราสองคนก็เดินจูงมือกันไปที่เต้นของนุ่น ระหว่างทางเราคุยกันหลายต่อหลายเรื่อง ผมกำชับเธอไม่ให้บอกเรื่องที่ผมรักษาเธอให้ใครฟัง ดูนุ่นเองก็คงไม่อยากจะเล่าให้ใครรู้เหมือนกัน ผมจึงสบายใจขึ้น ก่อนนุ่นจะมุดเข้าเต้นของเธอไป ผมหอมแก้มเธอหนึ่งทีบอกว่าราตรีสวัสดิ์ เวลานั้นเกือบจะตีสามอยู่แล้ว นุ่นส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะรูดซิบปิดเต้นของเธอแล้วเข้านอน ส่วนผม..หมดเวลาเวรของผมแล้ว รู้สึกเพลียมากจึงแยกไปนอนเช่นเดียวกัน